วันก่อนเห็น เปแอสเช ปู้ยี่ปู้ยำพลางชำเราแชมป์ถ้วยใหญ่ยุโรป 15 สมัย อย่าง เรอัล มาดริด 4-0 ในรอบตัดเชือก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ แล้วผมก็อยากบอกทุกท่านที่ได้ดู และไม่ได้ดูว่า…
1. จริงๆ สกอร์มันอาจไม่ขาดลอยถึงขนาดนี้หรอก
แต่เพราะความผิดพลาดของกองหลังทีมชุดขาวที่เกิดขึ้นถึง 2 ครั้งในเวลาห่างกันไม่กี่นาทีนี่แหละ คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เกิดเหตุฆาตกรรมหมู่เลื่อยไฟฟ้าแห่ง นิวยอร์ค/นิวเจอร์ซี่
แผนการเล่นที่ ชาบี อลอนโซ่ วางเอาไว้ มันจึงแตกสลายไปทันที ทั้งๆ ที่ยังมองไม่เห็นชัดเจนเลยด้วยซ้ำ !!!
2. ความผิดพลาดก็ส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งต้องชื่นชม ‘วินัย’ ของผู้เล่น เปแอสเช ด้วย
เฉพาะอย่างยิ่ง อุสมาน เด็มเบเล่ ที่วิ่งไล่บี้กดดันคู่แข่งจนก่อให้เกิดความผิดพลาดทั้ง 2 จังหวะนั้น
คือถ้าเขาเดินเล่นหรือยืนเฉยๆ ทีมก็คงไม่ได้ประตู
3. เวลาครองบอล เปแอสเช แสดงให้เห็นว่ามีความเข้าใจในเกมสูงมาก
ทุกตำแหน่งสามารถสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันได้อย่างกลมกลืนยิ่งนัก การต่อบอล และทำชิ่งกันง่ายๆ อย่างแม่นยำ รู้ว่าจังหวะไหนควรเล่นช้า และรู้ว่าจังหวะไหนควรจู่โจมแบบฟ้าผ่าหัวหมาปลิดวิญญาณคู่แข่งแบบไม่รู้ตัว
เวลาไม่มีบอลก็รู้หน้าที่ตัวเองว่าต้องทำอย่างไร คิดเอาขนาดกองหน้ากึ่งปีกยังถอยลงมาช่วยเล่นเกมรับยามฟูลแบ็คขึ้นไปเติมเกมรุกแล้วเสียตำแหน่ง
4. เปแอสเช แข็งแกร่งทุกขุมกำลัง
นายทวารกินกาวตราช้าง 8 หลอด ก่อนลงเฝ้าเสา แผงหลังเหนียวแน่น และไม่พลาดง่ายๆ ห้องเครื่องตรงกลางสอดประสานงานกันลงตัว ขณะที่หน่วยล่าสังหารก็จัดจ้าน ปราดเปรียว และเด็ดขาดดีนักแล
กุนซืออย่าง หลุยส์ เอ็นริเก้ ก็โคตรโรคจิต เน้นรายละเอียดทุกดอก
ขอบอกว่านี่แหละ…โคตรทีมไร้เทียมทาน
5. นาทีนี้ ทีมที่จะห้ำหั่นกับพวกเขาอย่างสูสี ดู๋ดี๋ จุ๊บจิ๋ม เห็นจะมีก็แต่ บาร์เซโลน่า ชุดทริปเปิ้ลแชมป์ เมื่อ 2015 จากการทำงานของ หลุยส์ เอ็นริเก้ เท่านั้น
ถ้าเจอกันบอกได้เลยว่า…สะเด่า !!!
ว่าแล้วก็หนักใจแทนคู่ชิงแชมป์สโมสรโลก และ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ของพวกเขาอย่าง เชลซี และ สเปอร์ส ที่คงต้องใช้เหลี่ยมเล่ห์ และกลยุทธ์ขั้นสุดเท่านั้นถึงจะรอดพ้นจากความพินาศ !!!